fbpx

ตกขาวมีกลิ่นเหม็น รักษายังไง

 

ตกขาวมีกลิ่นเหม็น รักษายังไง – หากช่องคลอดมีกลิ่นเล็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง แต่หากมีกลิ่นฉุนเหม็นคาวมากขึ้น มีตกขาวผิดไปจากปกติ คัน หรือระคายเคืองบริเวณช่องคลอดร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณสำคัญของการเจ็บป่วยที่ควรได้รับการรักษา

 

สาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น

ช่องคลอดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

สุขอนามัยที่ไม่ดี: มีสิ่งสกปรกตกค้างบริเวณช่องคลอด แล้วไม่ได้รับการดูแลทำความสะอาดกำจัดสิ่งเหล่านั้นออกไป เช่น ไม่รักษาความสะอาด ไม่อาบน้ำทำความสะอาดอวัยวะเพศ ทำให้หมักหมมสิ่งสกปรกจนเกิดการอักเสบ หรือลืมเปลี่ยนผ้าอนามัยเป็นเวลานาน ๆ เพิ่มการสะสมของเชื้อโรคเกิดการอักเสบได้เช่นกัน โดยการมีสุขอนามัยที่ไม่ดีอาจเกิดจากการละเลยไม่ใส่ใจดูแลสุขภาพ เป็นทั้งลักษณะนิสัยส่วนบุคคล เป็นผลจากภาวะทางจิตใจ อย่างภาวะซึมเศร้า ความจำเสื่อม มีอาการทางจิต หรืออาจเป็นเพราะไม่มีความสามารถในการดูแลสุขภาพร่างกายโดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศได้ เช่น ผู้พิการไร้ความสามารถ เป็นต้น

ภาวะช่องคลอดอักเสบแบบแบคทีเรียลวาไจโนสิส (Bacterial Vaginosis: BV): โดยทั่วไปภายในช่องคลอดของผู้หญิงจะมีเชื้อแบคทีเรียที่ช่วยสร้างสารบางอย่างที่ลดการเติบโตของแบคทีเรียไม่ดีที่อาศัยอยู่ แต่การอักเสบจากแบคทีเรียวาจิโนสิสเป็นผลมาจากความไม่สมดุลของปริมาณแบคทีเรียในช่องคลอด หรือมีการเติบโตของแบคทีเรียภายในช่องคลอดมากเกินไป

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์: เกิดการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ เช่น

  • หูดที่อวัยวะเพศจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV)
  • การป่วยโรคทริโคโนสิส (Trichinosis) จากปรสิตทริคิเนลล่า สไปราลิส (Trichinella Spiralis)
  • การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease: PID)
  • การอักเสบที่เกิดจากเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Thrush)

 

สาเหตุอื่น ๆ: มักพบได้ไม่บ่อยนัก เช่น ความผิดปกติของลำไส้ที่ทวารหนักทะลุเข้าสู่ช่องคลอด (Rectovaginal Fistula) มะเร็งปากมดลูก มะเร็งในช่องคลอด

 

ช่องคลอดมีกลิ่น ควรไปพบแพทย์

หากกำลังเผชิญกับอาการช่องคลอดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ส่งกลิ่นรุนแรงหรือเหม็นคาวมากผิดปกติ หรือมีอาการร่วมอื่น เช่น ปวดแสบ คัน ระคายเคืองบริเวณช่องคลอด มีตกขาวมากผิดปกติ หรือมีตกขาวที่ผิดปกติ ทั้งสีและกลิ่น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษา

 

ช่องคลอดมีกลิ่น ควรทำอย่างไร ?

การดูแลตนเอง โดยทั่วไป ภายในช่องคลอดจะผลิตสารหล่อลื่นเพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกภายในตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งจะออกมาในรูปของการตกขาว อย่างไรก็ตาม ควรรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอดและอวัยวะเพศอยู่เสมอเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาช่องคลอดมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เช่น

  • อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายอยู่เสมอ ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำสะอาดและสบู่อ่อน ๆ เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบางชนิดอาจส่งผลต่อค่า pH (ความเป็นกรดด่าง) ภายในช่องคลอด ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ ควรระมัดระวังในการใช้ หรือปรึกษาแพทย์ก่อน

 

  • ทำความสะอาดบริเวณภายนอกช่องคลอดเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำหรือสเปรย์น้ำหอมใด ๆ ฉีดพ่นเข้าไปภายในช่องคลอด และไม่ควรสวนล้างช่องคลอด เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสมดุลของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ภายในช่องคลอด

 

  • หากเป็นช่วงรอบเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ

 

  • ใช้กางเกงชั้นในที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ อย่างกางเกงชั้นในผ้าฝ้าย 100 % เพื่อช่วยการระบายความอับชื้น

 

  • หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงรัดรูปอย่างกางเกงยีนส์ เพราะอาจทำให้ช่องคลอดอับชื้นและมีกลิ่นได้

 

การรักษาด้วยยาจากร้านขายยา

หากช่องคลอดมีกลิ่น หรือพบร่วมกับอาการตกขาวที่ผิดปกติ ในเบื้องต้นสามารถใช้ยาปฏิชีวนะรักษาได้ด้วยตนเอง คือ

  • ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ในรูปแบบยารับประทาน เป็นยาเม็ดขนาด 500 มิลลิกรัม รับประทาน 2 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 7 วัน

 

  • ยาคลินดามัยซิน (Clindamycin) ยาในรูปแบบครีมให้ใส่ภายในช่องคลอดก่อนนอนติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน หรือยาแบบรับประทาน เป็นยาเม็ดขนาด 300 มิลลิกรัม รับประทาน 2 ครั้ง/วัน เป็นเวลา 7 วัน

 

การใช้ยาปฏิชีวนะ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำจากเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือในขณะที่กำลังตั้งครรภ์

นอกจากนี้ ไม่ควรใช้วิธีการสวนล้างช่องคลอดในการรักษา เพราะอาจทำให้แบคทีเรียภายในช่องคลอดเสียสมดุลแล้วอาจเกิดอาการอื่น ๆ ตามมาได้

หากใช้ยารักษาด้วยตนเองแล้วอาการไม่ทุเลาลง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม

 

การรักษาเมื่อไปพบแพทย์

หากแพทย์วินิจฉัยแล้วพบความผิดปกหรืออาการเจ็บป่วย แพทย์จะให้รักษาตามสาเหตุของความผิดปกติ เช่น

  • แบคทีเรียล วาไจโนสิส, การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน แพทย์จะรักษาด้วยการจ่ายยาปฏิชีวนะในรูปแบบยาเม็ดรับประทาน โดยใช้ยาเมโทรนิดาโซล (Metronidazole) ทินิดาโซล (Tinidazole) หรืออัลเบนนาโซล (Albendazole) ตัวยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของทั้งปรสิตและแบคทีเรีย

 

  • การป่วยโรคทริโคโนสิส ที่เกิดจากปรสิต แพทย์จะจ่ายยาต้านปรสิต (Anti-parasitic) หรือยาฆ่าหนอนพยาธิ (Anti-helminthic) หากตรวจพบพยาธิได้เร็ว จะใช้ยาอัลเบนดาโซล (Albendazole) หรือมีเบนดาโซล (Mebendazole) เพื่อฆ่าหนอนและตัวอ่อนของพยาธิที่อยู่ภายในลำไส้

 

  • การอักเสบที่เกิดจากเชื้อราในช่องคลอด (Vaginal Thrush) เป็นยาในรูปแบบครีมใส่ภายในช่องคลอดหรือยาเม็ดรับประทาน โดยแพทย์จะใช้ยาอีโคนาโซล (Econazole) ไมโคนาโซล (Miconazole) เฟนติโคนาโซล (Fenticonazole) หรือไอทราโคนาโซล (Itraconazole)

 

  • มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งในช่องคลอด ต้องตรวจคัดกรองหาเซลล์มะเร็ง แล้วรักษาตามอาการป่วยและระยะของมะเร็ง ซึ่งประกอบด้วยการผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออก รังสีบำบัด และการทำเคมีบำบัด

 

  • ความผิดปกติของลำไส้ที่ทะลุเข้าสู่ช่องคลอด (Rectovaginal Fistula) แพทย์อาจให้ยารักษาเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัด อย่างกลุ่มยาปฏิชีวนะหากรอบ ๆ ลำไส้มีการติดเชื้อ หรือยาอินฟลิกซิแม็บ (Infliximab) เพื่อช่วยลดอาการอักเสบ เพราะผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณรอบลำไส้บริเวณทวารหนักต้องปราศจากการติดเชื้อหรือการอักเสบก่อนทำการผ่าตัดเคลื่อนย้ายลำไส้ออกจากช่องคลอด

 

การป้องกันไม่ให้ช่องคลอดมีกลิ่น

  • ป้องกันการเกิดโรค หลาย ๆ โรคที่เป็นที่มาของกลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยจะช่วยป้องกันและลดปัญหาที่จะตามมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเหล่านั้นได้ อย่างการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอายุ 21-64 ปี ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายบั่นทอนสุขภาพ และเพื่อที่จะสามารถรักษาแก้ไขได้ทันการณ์หากมีเนื้อร้ายก่อตัวขึ้น

 

  • รักษาสุขภาพ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพ รวมถึงออกกำลังกายอย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยสร้างสุขภาพที่ดีโดยรวมแล้ว ยังช่วยให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้ตามปกติ รวมทั้งบริเวณช่องคลอดด้วย

 

ตัวช่วยง่ายๆสำหรับผู้ที่มีตกขาวเยอะกับผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ 

เพราะเราเข้าใจ ถึงปัญหาภายใน สุดลับของผู้หญิง ผู้หญิงจำนวนไม่น้อย ที่ต้องเจอกับปัญหา ช่องคลอดไม่กระชับ มีกลิ่นน้องสาว จนสามีเมิน ทำให้เกิดปัญหา เรื่องบนเตียง รวมไปถึงอาการตกขาว ที่มาไม่ปกติ และทรมานกับ อาการปวดท้อง ประจำเดือน ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ได้ง่าย เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวอารมณ์ร้าย เราจึงได้คิดค้น สูตรอาหารเสริมมา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้น จนได้สูตรสมุนไพร 5 ชนิด ที่ช่วยกระชับ ช่องคลอด ลดตกขาว ลดอาการปวดท้อง ประจำเดือน พร้อมปรับสมดุล ของฮอร์โมน คืนความสาว ความอ่อนเยาว์ ให้คุณใหม่ อีกครั้ง

 

-ความกระชับ ช่วยกระชับช่องคลอด ทำให้มดลูกบีบตัวได้ดี เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต

-ปรับสมดุลฮอร์โมน ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนผู้หญิง โดยเฉพาะวัยทอง และคุณแม่หลังคลอดหรือกำลังให้นมบุตร

-ลดอาการปวดท้องประจำเดือนและการตกขาว ช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้เป็นอย่างดีและลดตกขาวผิดปกติ ตกขาวสีเขียว สีเหลืองปนเลือด พร้อมลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

-ผิวพรรณ ช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใส ดูสุขภาพดี ผิวเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย ลดริ้วรอยก่อนวัย

 

 

 

ติดต่อสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Dong Hee ดงฮี ตกขาวมีกลิ่นเหม็น รักษายังไง

หรือ Line @dong-hee

กลับสู่หน้าหลัก ตกขาวมีกลิ่นเหม็น รักษายังไง